อาหารเสริม L-Carnitine แอลคาร์นิทีน ช่วยการเผาผลาญไขมัน
หลายทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการค้นพบแอลคาร์นิทีน L-Carnitine และหลายทศวรรษต่อมาก็ได้มีนักวิจัยพบว่า L-Carnitine มีหน้าที่ในการกระตุ้นอัตราการเผาผลาญไขมัน และจากการข้อสังเกตนี้ ทำให้มีการทดลองทางคลินิกกันในวงกว้างขึ้น และมีการนำมาประยุกต์ใช้มากขึ้น จนกระทั่งถึงในปัจจุบันได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ระบุว่า L-Carnitine มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึมของหัวใจ และหลอดเลือด การออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก เป็นอาหารสำหรับทารก และยังมีผลดีต่อสมอง
L-Carnitine คืออะไร
L-Carnitine คือสารที่มีลักษณะคล้ายกรดอะมิโนและวิตามินบี ซึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งชนิดของ D- และ L- isomers (Isomers คือ สารประกอบที่มีสูตรโมเลกุลเหมือนกันแต่มีคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ต่างกัน เนื่องจากตำแหน่งของอะตอมในโมเลกุลต่างกันแต่มีเพียง L-Isomers เท่านั้น ซึ่งเป็น L-Carnitine ที่พบในธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพตาม แนวชีววิทยา ในขณะที่ D-form จะไม่มีปฏิกิริยาทางชีววิทยา และเนื่องจากมีผลในทางลบ จึงมีการห้ามจำหน่าย D- Carnitine และ D, L-Carnitine ในสหรัฐอเมริกา
ขนาดรับประทาน แอลคาร์นิทีน L-Carnitine ที่เหมาะสม
นักวิทยาศาสตร์พิจารณาแล้วว่า การรับประทานแอล คาร์นิทีนวันละ 200-300 มิลลิกรัม เพียงพอเต็มที่ ที่จะช่วยให้กล้ามเนี้อตึงกระชับและมีกำลังวังชา ดังนั้นไม่เพียงแต่จะลดน้ำหนักลง แต่กลับ ได้รับพลังงานและมีกำลังวังชา ด้วย
แอลคาร์นิทีน ผลิตได้ที่ไหน และต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?
ตามธรรมชาติร่างกายผลิต แอล คาร์นิทีน ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบที่จำเป็นต่อสมดุลย์ทางพลังงาน 6 ชนิด
กรดอะมิโนสองชนิด
- แอล ไลซิน
- แอล เมซิโอนีน
- แอล ไลซิน
- แอล เมซิโอนีน
วิตามินสามชนิด
- วิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินแก้ความตึงเครียดที่พบในผลไม้ ผัก เนื้อวัว เนื้อหมู
- วิตามินพีพี พบในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา
- วิตามินบี 6 พบในพืชผักผลไม้
- วิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินแก้ความตึงเครียดที่พบในผลไม้ ผัก เนื้อวัว เนื้อหมู
- วิตามินพีพี พบในเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา
- วิตามินบี 6 พบในพืชผักผลไม้
ธาตุเหล็ก
- พบในเนื้อแดง ผักใบเขียว ถั่วแขก
- พบในเนื้อแดง ผักใบเขียว ถั่วแขก
การผลิตแอล คาร์นิทีน ร่างกายต้องอาศัยองค์ประกอบ 6 ชนิดนี้ ถ้าขาดตัวใดตัวหนึ่งไปจะสังเคราะห์ไม่ได้
ประโยชน์ และการประยุกต์ใช้ L-Carnitine
บทบาทของ L-Carnitine ที่เป็นส่วนเสริมในการเผาผลาญพลังงานในระบบการไหลเวียนโลหิต การออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก ในอาหารสำหรับทารก และยังมีผลดีต่อสมอง ซึ่งได้รับการศึกษาวิจัยประโยชน์ของ L-Carnitine มาเป็นอย่างดี
L-Carnitine & Cardiovascular Wellness
มีหลักฐานจากการศึกษา ทางคลินิกจำนวนมากที่สนับสนุนว่า บทบาทที่สำคัญของ L-Carnitine ในการบำรุงรักษาระบบการไหลเวียนโลหิตให้มีสุขภาพดี ในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวจะมีระดับ L-Carnitine ซึ่งเกี่ยวกับเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อหัวใจในปริมาณที่ต่ำ ( สภาพซึ่งเกิดขึ้นเมื่อแรงบีบหัวใจลดลงจนถึงระดับที่เนื้อเยื่อของร่างกายได้รับเลือดน้อยกว่าปกติ) และได้มีการแนะนำว่าการบำบัดโดย L-Carnitine อาจจะมีผลในการจัดการกับปัจจัยเหล่านี้ นอกจากนั้น L-Carnitine สามารถป้องกันโรคหัวใจจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (การลดอัตราการไหลเวียนโลหิตจะส่งผลให้กลไกการทำงานของหัวใจอ่อนแอลง และสามารถนำไปสู่โรคหัวใจวาย) และสามารถลดความรุนแรงของโรคหัวใจวาย L-Carnitine ยังมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการ Angina Pectoris (อาการเจ็บหน้าอก ที่เกี่ยวกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด)
ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่ามีข้อมูลจำนวนมากที่สนับสนุนว่าประโยชน์ของ L-Carnitine ที่เป็นอาหารเสริมเพื่อบำรุงระบบการไหลเวียนโลหิต
L-Carnitine & Exercise
ไขมันและคาร์โบไฮเดรต เป็นเชื้อเพลิงพื้นฐานจะถูกใช้เพื่อผลิตพลังงาน ซึ่งร่างกายต้องการเมื่อออกกำลังกาย และเนื่องจากหน้าที่ในการเผาผลาญพลังงานของL-Carnitine จึงทำให้เราพบว่า L-Carnitine มีบทบาทสำคัญในการออกกำลังกาย
L-Carnitine & Weight Management
อาหารเสริมที่มี L-Carnitine จะช่วยทำให้ร่างกายผอมลง โดยการลดไขมันสะสมใน โปรตีน (กล้ามเนื้อ) จากการศึกษาวิจัยทางคลินิกพบว่า L-Carnitine มีผลในการลดน้ำหนักอย่างยิ่ง โดยลดไขมันที่สะสมในร่างกาย
L-Carnitine ยังมีผลในการควบคุมน้ำหนัก เมื่อรับประทานควบคู่กับสารอาหารที่ช่วยในการลดน้ำหนักตัวอื่น เช่น โครเมียมพิโคลิเนต และไฟเบอร์
L-Carnitine ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก โดยเพิ่มอัตราการแตกตัวกรดไขมัน และเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม ซึ่งอัตราที่ร่างกายเผาผลาญแคลอรี เพื่อเสริมการทำหน้าที่ต่างๆ ของร่างกาย โดยการเพิ่มการสังเคราะห์โปรตีน (กล้ามเนื้อ)
L-Carnitine & Infant Nutrition
ไม่ว่าเราจะมีอายุ 9 วันหรือ 90 ปี ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับ L-Carnitine ให้เพียงพอ แต่ร่างกายของทารกจะมีความสามารถในการสังเคราะห์ L-Carnitine ได้เองในร่างกายได้ต่ำกว่าร่างกายของผู้ใหญ่ ทั้งๆที่จริงแล้ว L-Carnitine จะเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารก และยังมีการแนะนำให้มีการเติม L-Carnitine ในอาหารสำหรับเด็ก แม้ว่าในน้ำนมจากแม่ ตามธรรมชาติ จะมี L-Carnitine แต่นมสำหรับทารก ซึ่งทำจากโปรตีนถั่วเหลืองจะไม่มี L-Carnitine ส่วนนมจากวัว ก็จะสูญเสีย L-Carnitine ในระหว่างกระบวนการผลิต ดังนั้นจึงพบว่ามีการเติม L-Carnitine ในอาหารสำหรับทารก ซึ่งมีหลักฐานยืนยันถึงความปลอดภัยและความสำคัญของสารอาหารนี้ต่อร่างกายมนุษย์
L-Carnitine & Other Potential Applications
เนื่องจาก L-Carnitine จะพบมากในเนื้อ ดังนั้นผู้ที่รับประทานมังสวิรัติหรือเจ จึงได้รับ L-Carnitineลดลง แต่อย่างไรก็ตาม สารอาหาร L-Carnitine ที่ใช้ในอาหารเสริม (ของ Lonza Group) ไม่ได้สกัดมาจากสัตว์ แต่สังเคราะห์โดยผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน
จากการวิจัยในเบื้องต้น ยังพบอีกว่า L-Carnitine อาจจะมีบทบาทที่มีผลดีต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ ซึ่งในผู้ป่วยเหล่านี้พบว่า L-Carnitine ในร่างกายจะถูกทำลาย ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการเผาผลาญไขมันและการจ่ายพลังงาน Chronic fatigue syndrome (CFS) เป็นลักษณะของความผิดปกติ โดยการขาดแคลนพลังงานที่เข้าคู่กับความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียและความเข้มข้นของ L-Carnitine ในพลาสมา ซึ่งจะลดต่ำลงเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะนี้ โดยบทบาทของ L-Carnitine ในการเผาผลาญพลังงานจะเป็นจุดสำคัญที่เป็นประเด็นในการศึกษาวิจัย ซึ่งพบว่า L-Carnitine จะช่วยให้สภาพร่างกายของผู้ที่เป็นโรค CFS มีอาการดีขึ้น
ดังนั้นจึงพอสรุปได้ว่า L-Carnitine มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญไขมัน และการผลิตพลังงาน รวมทั้งมีประโยชน์ต่อระบบการไหลเวียนโลหิต การออกกำลังกาย และการควบคุมน้ำหนัก
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น