ในบางครั้งเราจะมีเหงื่อออกมามากเนื่องจากถูกใช้งานมากกว่าที่ควร
โครงสร้างของเท้าที่ผิดปกติเช่นเท้าที่ไม่มีส่วนโค้ง
หรือการงานบางอย่างที่ทำให้ท่านต้องเดินทั้งวันนั้น
อาจเป็นสาเหตุสำคัญของกลิ่นเท้าได้
สาเหตุทั้งสองประการนี้
ทำให้กล้ามเนื้อที่เท้าต้องทำงานมากขึ้น
ยิ่งเท้าของท่านต้องทำงานมากเท่าไรเหงื่อก็จะถูกขับออกมามากขึ้นเท่านั้นเพื่อทำให้เท้าเย็นลง
ถึงแม้ว่าเท้าที่มีเหงื่อออกมานั้น
ไม่จำเป็นต้องมีกลิ่นก็ตาม แต่ความเปียกชื้นนี่แหละ เป็นตัวเชื้อเชิญให้แบคทีเรียได้เจริญเติบโตและก่อให้เกิดกลิ่นขึ้นในที่สุด
ถ้าท่านแก้ไขปัญหาโดยการเสริมส่วนโค้งของเท้าในรองเท้า
ท่านจะสามารถลดปริมาณของเหงื่อ ที่ถูกขับออกมาได้
คือถ้ากล้ามเนื้อที่เท้าไม่ต้องทำงานหนักเกินไป ความร้อนก็จะไม่ถูกส่งออกมามากนัก
ท่านควรรักษาความสะอาดเท้าของท่านอย่างพิถีพิถันโดยใช้สบู่ผสมกับน้ำอุ่นและล้างเท้าบ่อยๆ
วันละหลายๆครั้งถ้าเหงื่อออกมากและมีกลิ่น ถูเบาๆ
ด้วยแปลงอ่อนระหว่างนิ้วเท้าและเช็ดให้แห้งโดยตลอด
หลังจากนั้นรวยแป้งที่ใช้สำหรับเท้า(แป้งข้าวโพด)หรือทายาฆ่าเชื้อรา
อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้เท้าแห้งและเย็นสบาย
คือการโรยแป้งข้าวโพดหรือแป้งแร่ทำจากแร่ชนิดหนึ่งในรองเท้า
หลักใหญ่ๆ ในการควบคุมกลิ่นเท้าคือ
การใช้ยายับยั้งการขับเหงื่อหรือยากำจัดกลิ่นที่เท้าของท่าน
ท่านอาจจะใช้ยากำจัดกลิ่นสำหรับเท้าหรือชนิดที่ใช้กับรักแร้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม
อย่าลืมว่ายากำจัดกลิ่นนั้นจะกำจัดแต่กลิ่นเท่านั้น
มันจึงไม่สามารถหยุดยั้งการขับเหงื่อได้
อย่าใช้ยายับยั้งการขับเหงื่อ
ถ้าท่านมีโรคเชื้อราที่เท้าเพราะจะทำให้แสบและควรใช้วันละ 2 หรือ 3
ครั้งในตอนเริ่มต้น แล้วจึงค่อยๆ ลดลงจนเหลือวันละครั้ง
วิธีแก้ไขที่สมเหตุสมผลสำหรับเท้าที่มีเหงื่อออกมากและมีกลิ่นคือ
การเปลี่ยนถุงเท้าให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถึงแม้ว่าจะต้องเปลี่ยนวันละ 3
หรือ 4 ครั้งก็ตาม
และควรใส่ถุงเท้าที่ทำจากใยฝ้ายเสมอเพราะว่าใยฝ้ายดูดซับเหงื่อได้ดีกว่าใยสังเคราะห์
การใส่ถุงเท้าครั้งละ 2 คู่ จะช่วยลดเหงื่อที่เท้าได้
เพราะอากาศระหว่างถุงเท้าจะช่วยทำให้เท้าเย็นลง แต่ควรใส่ถุงเท้าใยฝ้ายก่อนแล้วใส่ถุงเท้าที่ทำจากขนแกะข้างนอก
และหลีกเลี่ยงการใช้ถุงเท้าใยสังเคราะห์ซึ่งจะทำให้เหงื่อออกมามากขึ้น
รองเท้าที่หุ้มเท้าโดยตลอดจะทำให้เหงื่อที่เท้าออกมามาก และเป็นแหล่งเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่น
ถ้าเป็นไปได้พยายามใส่รองเท้าชนิดที่เปิดนิ้วเท้าแต่หลีกเลี่ยงรองเท้าที่ทำจากยางหรือพลาสติก
ซึ่งทำให้อากาศไม่ถ่ายเท และไม่ควรใส่รองเท้าคู่เดียวติดกัน 2
วันควรปล่อยทิ้งไว้ให้เหงื่อได้ระเหยจากรองเท้าจนแห้งโดยตลอดก่อนที่จะใส่อีกครั้งหนึ่ง
วิธีปฏิบัติตามลำดับเพื่อช่วยให้เท้าแห้งในตอนกลางคืนก่อนเข้านอนคือ
การทำความสะอาดเท้าด้วยแอลกอฮอล์ ถ้ายากำจัดกลิ่นที่ฝ่าเท้า
พันเท้าด้วยพลาสติกที่ทำให้เหงื่อออกซึ่งจะทำให้เท้าดูดซึมตัวยาได้ดีกว่า
ใส่ถุงเท้าทับอีกชั้นหนึ่งและหลังเท้าในตอนเช้า ปฏิบัติเช่นนี้ทุกๆคืนเป็นเวลา 1
สัปดาห์และหลังจากนั้นปฏิบัติสัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้งถ้าจำเป็น
การแช่เท้าลงในน้ำที่ผสมกับส่วนผสมต่างๆนั้น
สามารถทำให้เท้าแห้งและกำจัดกลิ่นเท้าได้ซึ่งมีด้วยกันหลายวิธีดังต่อไปนี้
- ต้มน้ำ 1 ลิตรกับถุงชา 3 หรือ 4 ถุงประมาณ
10 นาที แล้วผสมน้ำเย็นเพื่อทำให้อุ่นพอที่จะแช่เท้าได้ แช่เท้าของท่านประมาณ
20-30 นาทีเช็ดให้แห้งแล้วรวยแป้ง ปฏิบัติเช่นนี้วันละ 2
ครั้งจนกว่าจะควบคุมปัญหาของกลิ่นเท้าได้ หลังจากนั้นปฏิบัติสัปดาห์ละ 2
ครั้ง
- แช่เท้าลงในส่วนผสมของน้ำ
1 ลิตรกับเกลือชนิดหยาบครึ่งถ้วย
- โซดาไฟ
ทำให้ผิวของเท้าเป็นกรดมากขึ้นและยังผลให้กลิ่นเท้าลดลง ละลายโซดาไฟ 1
ช้อนโต๊ะ ลงในน้ำ 1 ลิตร แช่เท้าประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15
นาที
- น้ำส้มก็เป็นกรดอีกชนิดหนึ่งเหมือนกัน
ผสมน้ำส้มครึ่งถ้วยกับน้ำ 1 ลิตร และแช่เท้าประมาณ 15 นาที สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
- แช่เท้าลงในน้ำอุ่นและน้ำเย็นสลับกัน
ทำให้การไหลเวียนของโลหิตที่เท้าลดลงและเป็นการลดการขับเหงื่อด้วย
หลังจากนั้นแช่เท้าลงในน้ำแข็งผสมกับน้ำมะนาว แล้วถุงเท้าของท่านด้วยแอลกอฮอล์เท้าของท่านมีเหงื่อออกมากท่านอาจจะปฏิบัติเช่นนี้ทุกวันก็ได้
แต่สำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวานและผู้ที่มีการไหลเวียนของโลหิตผิดปกตินั้นไม่ควรใช้วิธีนี้
ต่อมเหงื่อที่เท้าของท่านก็เช่นเดียวกับต่อมเหงื่อที่รักแร้และที่ฝ่ามือ มันจะมีปฏิกิริยาต่ออารมณ์ต่างๆ ด้วยการขับเหงื่อออกมา
อันยังผลให้มีแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้นในรองเท้าของท่านและมีกลิ่นตามมา
ระวังอาหารที่ท่านทานด้วย
เวลาท่านรับประทานอาหารที่มีรสจัดหรือกลิ่นแรงเช่น หัวหอม
พริกไทยหรือกระเทียมเปลี่ยนของอาหารเหล่านี้จะถูกขับออกมาทางต่อมเหงื่อที่เท้าของท่าน
ด้วยเหตุนี้เองเท้าของท่านจึงอาจมีกลิ่นเหมือนกับอาหารที่ท่านรับประทานเข้าไปก็ได้