ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับวิตามินบี 2
(ไรโบฟลาวิน)
- เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ
ถูกดูดซึมได้ง่าย ปริมาณที่ถูกขับออกขึ้นกับความต้องการของร่างกาย
และอาจเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการสูญเสียโปรตีน เช่นเดียวกับวิตามินบีตัวอื่น ๆ
ร่างกายไม่เก็บสะสมวิตามินบี 2 เราจึงควรได้รับวิตามินบี 2 อย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นทางอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
- มีอีกชื่อหนึ่งว่า
วิตามินจี
- มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม
(มก.
- ข้อแตกต่างจากไทอะมีนคือ
ไรโบฟลาวินไม่ถูกทำลายโดยความร้อน ปฏิกิริยาออกซิเดชัน หรือกรด
แต่ถูกแสงสว่างทำลายได้โดยง่าย
- สำหรับผู้ใหญ่ปกติ
ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ 1.2-1.7 มก. 1.8 มก.สำหรับหกเดือนแรก และ 1.7
มก.สำหรับหกเดือนหลัง
- ในสภาวะเครียด
ร่างกายจะต้องการเพิ่มขึ้น
- เป็นวิตามินที่พบว่าชาวอเมริกันขาดมากที่สุด
คือ ไรโบฟลาวิน
วิตามินนี้ดีต่อร่างกายคุณอย่างไร
ช่วยในกระบวนการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์,ส่งเสริมสุขภาพผิวพรรณ
เล็บ และเส้นผม,ช่วยกำจัดอาการเจ็บแสบในปาก
ริมฝีปาก และลิ้น,ช่วยเสริมประสิทธิภาพการมองเห็น
และบรรเทาอาการอ่อนล้าของสายตา,ทำงานร่วมกับสารอื่น
ๆ ในการเผาผลาญอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และโปรตีน
ช่วยลดความเจ็บปวดจากอาการปวดศีรษะจากไมเกรน
โรคจากการขาดวิตามิน
โรคปากนกกระจอกหรือโรคขาดวิตามินบี
1 และบี 2 พบรอยโรคที่มุมปาก ริมฝีปาก ผิวหนัง และอวัยวะสืบพันธุ์
แหล่งจากธรรมชาติที่ดีที่สุด
นม ตับ ไต ชีส
ผักใบเขียว ปลา ไข่ โยเกิร์ต ถั่ว
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
มีวางจำหน่ายทั้งแบบปริมาณสูงและต่ำ
ขนาดที่ใช้กันโดยทั่วไปคือ 100 มก. เช่นเดียวกับวิตามินบีอื่น ๆ บี 2
จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อรับประทานสูตรที่รวมกับวิตามินบีตัวอื่นอย่างสมดุล
ขนาดที่ใช้รับประทานกันโดยทั่วไปคือ
100-300 มก.ต่อวัน
อาการเป็นพิษและสัญญาณเตือนว่ารับประทานมากไป
ยังไม่พบอาการเป็นพิษจากวิตามินชนิดนี้ อาการของการมีระดับวิตามินในร่างกายสูงเกินไปที่อาจมีได้คือ
คัน รู้สึกชา หรืออาการแสบยิบ ๆ
ศัตรู
แสง
โดยเฉพาะแสงแดดหรือแสงยูวี และความเป็นด่างจะทำลายไรโบฟลาวินได้
(ขวดบรรจุนมแบบทึบที่ใช้ในปัจจุบัน ช่วยป้องกันไม่ให้ไรโบฟลาวินถูกทำลายแบบที่เกิดกับนมที่บรรจุในขวดแก้วใส)
ศัตรูตามธรรมชาติอื่นๆ ได้แก่ น้ำ (บี 2
จะถูกเจือจางในน้ำที่ใช้ประกอบอาหาร) ยาในกลุ่มซัลฟาฮอร์โมนเอสโทรเจน แอลกอฮอล์
คำแนะนำ
หากคุณกำลังรับประทานยาคุมกำเนิด
ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร คุณจะต้องการวิตามินบี 2 เพิ่มขึ้น
หากคุณรับประทานเนื้อแดงหรือผลิตภัณฑ์จากนมวัวเพียงเล็กน้อย
คุณควรพยายามรับประทานบี 2 ให้มากขึ้น มีความเป็นไปได้สูงที่คุณจะขาดวิตามินบี
2 หากคุณจำกัดอาการเป็นเวลานานเพื่อรักษาแผลหรือเบาหวาน
(หากคุณกำลังรับการรักษาโรค ๆ อยู่ก็ตาม ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางการรับประทานอาหาร
หรือลองอะไรใหม่)
สภาวะเครียดทุกประเภท
ทำให้ร่างกายต้องการวิตามิบีรวมเพิ่ม วิตามินชนิดนี้ทำงานร่วมกับวิตามินบี
6 วิตามินซี และไนอะซินได้ดีที่สุด หากคุณกำลังรับประทานยาต้านมะเร็ง
เช่น เมโทเทร็กแซต การรับประทานวิตามินบี 2 มากเกินไป อาจลดประสิทธิภาพของยา หากคุณกำลังรับประทานยาปฏิชีวนะ
ร่างกายคุณอาจจะไม่ได้รับบี 2 อย่างที่ต้องการ นักดื่มต้องการวิตามินชนิดนี้เพิ่มขึ้น
เพราะแอลกอฮอล์ขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน
ผลการศึกษาจากศูนย์โรคปวดศีรษะแห่งนิวอิงแลนด์
ในเมืองสแตมฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต พบว่าผู้ป่วยที่รับประทานบี 2 ทุกวัน วันละ 400
มก. จะมีความถี่ ระยะเวลา และความรุนแรงของโรคไมเกรนลดลงถึงร้อยละ 50
แต่ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง 3-4 เดือนจึงจะเห็นผล
ไปหน้าแรก อาหารเสริมและวิตามิน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น