ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากแคลเซียม
มักจำหน่ายในรูปเม็ดขนาด 250-500 มก.
รูปของแคลเซียมที่ดีที่สุด ไฮดร็อกซีอะพาไทต์,แคลเซียมซิเทรตและแคลเซียมไฮโดรเจนฟอสเฟต
(แคลเซียมซิเทรตให้ปริมาณแคลเซียมต่อเม็ดมากที่สุด)
มีแคลเซียมซิเทรตแบบเคี้ยวในรสชาติต่างๆ วางจำหน่ายด้วย
แคลเซียมซิเทรตยังมีในรูปเม็ดที่ละลายน้ำได้
และกลายเป็นเครื่องดื่มรสอร่อยอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีชื่อว่า โบนมีล
ซึ่งเคยโด่งดังในอีดตนั้นปัจจุบันไม่แนะนำให้รับประทานแล้ว โดยเฉพาะในเด็ก
เพราะอาจมีตะกั่วปนเปื้อนในปริมาณสูง (ผลิตแบบมังสวิรัติ) หรือแคลเซียมแล็กเทต (อนุพันธ์ของแล็กโทส)
เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่มีตะกั่วเจือปน และดูดซืมได้ง่าย
(กลูโคเนตมีประสิทธิภาพสูงกว่าแล็กเทต)
ตัวอักษร USP (U.S. Pharmacopeia) บนฉลาก
เป็นการบ่งบอกว่าแคลเซียมในผลิตภัณฑ์นั้นผ่านมาตรฐานการตรวจสอบว่าสามารถละลายได้หมดภายใน
30 นาที
วิตามินรวมและแร่ธาตุที่ดีส่วนใหญ่มักมีแคลเซียมผสมอยู่
หากรับประทานแคลเซียมร่วมกับแมกนีเซียม
อัตราส่วนควรเป็นแคลเซียมสองส่วนต่อแมกนีเซียมหนึ่งส่วน
อาการเป็นพิษและสัญญาณเตือนว่ารับประทานมากไป
การรับประทานมากเกินไป เช่น มากกว่า 2,500 มก.
อาจก่อให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงได้
การรับประทานมากเกินยังอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก
และเพิ่มความเสี่ยงของนิ่วในไตและการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะอีกด้วย
ศัตรู
การรับประทานไขมัน อาหารที่มีกรดออกซาลิก (ช็อกโกแลต ผักขม
ผักสวิสชาร์ด พาร์สลีย์ ผักบีต และรูบ์บ) และกรดไฟติก (พบในธัญพืช)
ในปริมาณมากจะขัดขวางการดูดซึมของแคลเซียม
คำแนะนำส่วนตัว
หากคุณรับประทานยาปฏิชีวนะ เช่น เตตราไซคลีน
พึงระลึกว่าการรับประทานแคลเซียมเสริม อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง
(ควรปรึกษาเภสัชกร)
หากคุณมีอาการปวดหลังเรื้อรัง การรับประทานแคลเซียมเสริมอาจช่วยคุณได้
ผู้ที่ต้องทนทรมานจากอาการปวดท้องระจำเดือน
อาจพบว่าอาการของคุณดีขึ้นได้เมื่อรับประทานแคลเซียมมากขึ้น
หากคุณเป็นคนชอบเคี้ยวกระดูกอ่อนไก่เล่น
นับว่าเป็นโชคดีของคุณเพราะบริเวณส่วนปลายของกระดูกไก่หรือสัตว์ปีกอื่น ๆ
จะมีแคลเซียมสูง
หากคุณรับประทานแคลเซียม 1,500 มก.ต่อวัน
และพบว่าเป็นโรคติดเชื้อทางเดนิปัสสาวะบ่อยขึ้น
ผมแนะนำให้ดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ร่วมด้วย
ในน้ำผลไม้ชนิดนี้จะมีสารที่ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียนที่ทำให้เกิดอาการติเชื้อเกาะที่ผนังเซลล์ของระบบทางเดินปัสสาวะได้
ในวัยรุ่นที่มีอาการเจ็บกระดูกอันอาจเป็นผลจากการเจริญเติบโต
พบว่ามีอากรรดีขึ้นเมื่อเพิ่มการรับประทานแคลเซียม
การรับประทานแคลเซียมในปริมาณสูงทุกวันต่อเนื่องระยะยาว
อาจเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันที่รับประทานเข้าไปได้
ภาวะมีน้ำตาลในเลือดต่ำทำให้ร่างกายใช้แคลเซียมมากขึ้น
(ผมแนะนำให้รับประทานเป็นแคลเซียมซิเทรต ซึ่งดูดซึมได้ดีที่สุด ในปริมาณ
1,000-1,500 มก.ต่อวัน)
เนื่องจากน้ำอัดลมมีกรดฟอสฟอริกสูง หากคุณดื่มน้ำอัดลมมาก
ร่างกายอาจสูญเสียแคลเซียมและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน
แคลเซียมทำงานร่วมกับวิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้ได้ดีที่สุด วิตามินเอ
ซี ดี ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส
(แต่อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วฟอสฟอรัสมากเกินไป ทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมได้)
แคลเซียมจะถูกดูดซึมได้ดีที่สุดหากรับประทานหลังอาหารและก่อนนอน
หากคุณรับประทานแคลเซียมเสริมอาหารตอนท้องว่าง หรือคุณอายุมากกว่า 60 ปี
ควรเลือกรับประทานเป็นแคลเซียมซิเทรตและแคลเซียมไฮดร็อกซีอะพาไทต์จะดีที่สุด
การรับประทานแคลเซียมเสริมอาหารชนิดที่แตกตัวได้ไม่ดี
อาจก่อให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น
ทำให้ข้อตึงและผนังเส้นเลือดแดงแข็ง
ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแคลเซียมเกินกว่า 500 มก. ได้อย่างมีประสิทธิภาพในมื้อเดียว
ดังนั้น ควรแบ่งรับประทานเป็นมื้อ ๆ อันที่จริงแล้ว ยิ่งคุณแบ่งเป็นปริมาณน้อย ๆ
ค่อย ๆรับประทานไปตลอดวัน จะยิ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมให้ดียิ่งขึ้น
และคุณจะต้องการแคลเซียมเพิ่ม
หากคุณนอนอยู่บนเตียงตลอดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หรือนานกว่านั้น
(ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะเสียไป หากเราต้องนอนอยู่บนเตียงนาน ๆ)
การรับประทานแคลเซียมและแมกนีเซียมเสริมก่อนเข้านอน
จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น
ไปหน้าแรก อาหารเสริมและวิตามิน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น